การบันทึกและการผลิตซ้ำเสียง Sound recording and reproduction
คือการจารึกตัวแทนคลื่นเสียงด้วยวิธีการทางไฟฟ้าหรือทางกล และ สร้างคลื่นเสียงขึ้นมาใหม่ อาทิเช่น เสียงพูด เสียงร้องเพลง เสียงเครื่องดนตรี และ เสียงประกอบอื่นๆ
การแบ่งชั้นของเทคโนโลยีการบันทึกเสียงในปัจจุบันมีสองอย่างคือ อัดแบบอนาล็อก analog recording และอัดแบบดิจิตอล digital recording
การอัดเสียงธรรมชาติแบบอนาล็อก Acoustic analog recording
คือผลจากการที ไดอะแฟรม diaphragm ขนาดเล็กของไมโครโฟนสามารถจับความเปลี่ยนแปลงของแรงดันอากาศ (คลื่นเสียงในอากาศ acoustic sound waves) และบันทึกพวกมันเหมือนเขียนภาพเหมือนของคลื่นเสียงลงบนสื่อ เช่นจานหรือแผ่นเสียง phonograph ซึ่งใช้หัวเข็มสัมผัสการบันทึกที่วนไปตามร่องของแผ่นเสียง
ในการอัดด้วยเทปแม่เหล็ก magnetic tape คลื่นเสียงสั่นสะเทือน ไดอะแฟรม ของไมโครโฟน และถูกเปลี่ยนเป็นกระแสไฟฟ้าที่มีการขึ้นๆลงๆ(ตามคลื่นเสียง) และเปลี่ยนเป็น สนามแม่เหล็ก magnetic fieldที่มีการขึ้นๆลงๆ ด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า electromagnet (หัวเทป) ซึงเป็นการสร้างตัวแทนของคลื่นเสียงด้วย พื้นที่แม่เหล็ก magnetized areas บนพลาสติกเทปกับผงแม่เหล็กที่ฉาบบนผิวของมัน
ส่วนการเล่นหรือผลิตซ้ำ reproduction ของเสียงแบบอนาล็อกก็ทำด้วยวิธีการย้อนกลับจากการบันทึก โดยมีไดอะแฟรมของลำโพงซึ่งใหญ่กว่าเป็นตัวสร้างความเปลี่ยนแปลงของแรงดันอากาศ เพื่อเกิดคลื่นเสียงให้เราได้ยิน
คลื่นเสียงสามารถสร้างด้วยวิธีการทางอีเล็กทรอนิก และอัดจากอุปกรณ์บางอย่างได้โดยตรงเช่น ปิคอัพกีตาร์ไฟฟ้า electric guitar pickup หรือเครื่องสังเคราะห์เสียง synthesizer โดยไม่ต้อง ใช้อะคุสติก ในกระบวนการอัดเสียง นอกเสียจากเสียงที่นักดนตรีต้องการได้ยิน ขณะทำการบันทึก recording sessions เท่านั้น
การบันทึกและการผลิตซ้ำแบบดิจิตอล Digital recording and reproduction
เป็นการแปลงสัญญาณเสียงอนาล็อกที่มาจากไมโครโฟน แหล่งกำเนิดอื่นๆ ให้เป็นรูปแบบดิจิตอล ด้วยกระบวนการคำนวณทางตัวเลข digitization, ทำให้มันสามารถบันทึกและส่งสัญญาณ transmitted ด้วยสื่อตัวกลาง media ที่กว้างขวางหลากหลาย และมีประสิทธิภาพสูง
การบันทึกแบบดิจิตอล เก็บข้อมูลเสียงด้วยชุดของเลขฐานสอง (ชุดรหัส1กับ0) เพื่อเป็นตัวแทนของตัวอย่างสุ่ม samples ของความกว้างคลื่น amplitude ของสัญญาณเสียง audio signal ที่ช่วงเวลาของเสียงที่เท่ากัน ที่อัตราการสุ่มตัวอย่าง sample rate ในความรวดเร็วที่หูของมนุษย์สามารถรับรู้ผลของการต่อเนื่องของเสียงได้
การบันทึกแบบดิจิตอล จึงเป็นที่เชื่อถือว่ามีคุณภาพสูงกว่าการบันทึกแบบอนาล็อก ไม่ใช่เพียงเพราะว่า มีความถูกต้องแม่นยำกว่า higher fidelity (การตอบสนองความถี่ frequency response หรือ ขอบเขตพลังงาน dynamic range) แต่เป็นเพราะว่า รูปแบบ ดิจิตอล digital format สามารถป้องกันการสูญเสียคุณภาพอย่างมากซึ่งเกิดขึ้นในการบันทึกแบบอนาล็อก ทั้งเสียงรบกวน noise และ การรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า electromagnetic interference ในขณะเล่นกลับ playback และการเสื่อมสภาพของระบบกลไก หรือเกิดการชำรุดเสียหายขึ้นกับ สื่อกลาง storage medium ที่ทำการบันทึก
สัญญาณเสียงดิจิตอล digital audio จะต้องถูกแปลงกลับเป็น รูปแบบอนาล็อก ระหว่างการเล่นกลับ ก่อนที่จะนำไปใช้กับลำโพงหรือหูฟัง loudspeaker or earphones.